Wednesday, 29 March 2023

เปิดประวัติ เจ้าชายลูกทุ่ง ก๊อท จักรพันธ์ กว่าจะมีวันนี้สู้สุดชีวิต

ถ้าเกิดพูดถึง นักร้องลูกทุ่งที่มีชื่อ เบอร์ต้น ๆ ของประเทศไทย อาจหนีไม่พ้น ก๊อท จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ เจ้าของฉายา เจ้าชายลูกทุ่ง ที่ถึงแม้เวลา จะผ่านมากี่ปี แต่ว่าชื่อเสียง แล้วก็เพลงของก๊อท ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ตลอด

ไปย้อนประวัติของ ก๊อท จักรพันธ์ ว่ากว่าจะประสบผลสำเร็จในชีวิต เหมือนปัจจุบันนี้ เขาต้องต่อสู้ แล้วก็อดทนมาไม่น้อย

ก๊อท จักรพันธ์ ทำเพลง

ก๊อท จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ เกิดที่จังหวัดนครราชสีมา

เป็นลูกคนที่ 3 จาก 4 คน พ่อของก๊อท เป็นทหารชาวอเมริกัน ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ที่จังหวัดนครราชสีมา แล้วก็พบรักกับแม่ ซึ่งในขณะนั้นเป็นแม่ครัว ในค่ายทหาร ทั้งสองแต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน 4 คน

ก่อนที่พ่อจะถูกเรียกตัว กลับอเมริกาตั้งแต่ ก๊อทยังเด็กมาก และแม่ไม่ย้าย ไปด้วยตามคำชวน เนื่องจากว่าห่วงยาย พ่อของก๊อทต้องย้ายไป ประจำการอีกหลายประเทศ ก็เลยไม่มีการติดต่อทางจดหมาย โดยไม่รู้ชะตากรรมในที่สุด

ก๊อทเป็นเด็กเงียบ ๆ ชีวิตวัยเด็กลำบากมาก เนื่องจากว่าครอบครัวยากจน อยู่บ้านเช่า แม่ทำงานรับจ้าง ได้ค่าแรงรายวันไม่มาก พี่สาวแล้วก็พี่ชาย ได้เรียนแค่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก็ต้องออกมา ทำงานหารายได้

แม่ส่งก๊อทไปให้ อยู่กับตายายตั้งแต่อายุ 6 ขวบ แล้วก็เกือบไม่ได้เรียนหนังสือ แต่ว่าโชคดี มีคนรู้จักกัน ขอไปเลี้ยงดู เป็นลูกที่จังหวัดกาญจนบุรี แม่ก็เลยตัดสินใจ ยกให้เพื่ออนาคตของลูก

พ่อบุญธรรมของก๊อทเป็นทหาร แม่บุญธรรมเป็นแม่บ้าน แล้วก็ดูแลเขาเป็นอย่างดี ชีวิตของก๊อทเปลี่ยนไป ราวกับเกิดใหม่ ก๊อทเริ่มได้รับอิทธิพล เรื่องเพลงตั้งแต่ช่วงนั้น เนื่องจากว่าพ่อแม่บุญธรรม ชอบฟังเพลงลูกกรุง ก็เลยได้ฟังบ่อย ๆ และซึมซับ

ภายหลังที่ไม่ได้ติดต่อแม่เป็นเวลานาน แล้วก็สืบกระทั่งรู้ว่าแม่อยู่ไหน ก๊อทได้เดินทางไปหา แล้วก็ตัดสินใจอยู่กับแม่ โดยไม่ศึกษาต่อ แล้วก็ไปทำงานกับป๋า สามีใหม่ของแม่ที่อู่ซ่อมรถ เริ่มจากเด็กฝึกงาน กระทั่งเลื่อนเป็นช่าง ทำสีรถเมื่ออายุ 13 ปีเท่านั้น

วันหนึ่งก๊อทพบ วิทยุทรานซิสเตอร์ ถูกห่อผ้าซ่อนอยู่ ในที่รกกลางทุ่งนา ก็เลยเก็บมาใช้ ทำให้เป็นช่วงเวลา ที่ผูกพันกับเพลงลูกทุ่ง โดยใช้วิทยุเป็น เสมือนครูที่เปิดฟัง แล้วก็ร้องตาม

ทุกวันอาทิตย์ ในตัวจังหวัดจะมี การประกวดร้องเพลงที่จัดโดย นที สุนันทา ดีเจโด่งดัง ซึ่งผู้ชนะเลิศจะได้เข้าประกวด รายการชุมทางคนเด่น ของ ประจวบ จำปาทอง เขาไปดูทุกคราว แล้วก็ต้องการแข่งขันมาก แต่ว่าไม่กล้า

ต่อมา ก๊อท จักรพันธ์ สมัครทำงาน เป็นพนักงานเสิร์ฟในโรงแรม ซึ่งอยู่ใกล้กับเวทีแข่งขัน โดยไปดูการแข่งขันทุกครั้ง กับเพื่อนที่ชื่นชอบ เช่นเดียวกัน เขาร้องเพลง ระหว่างทำงาน เหมือนการฝึก ซึ่งมักร้องเพลงของ สายัณห์ สัญญา หรือ ยอดรัก สลักใจ โดยใช้เพลง ดังกล่าวไปแข่งขัน แล้วก็ได้เข้ารอบ ในครั้งที่ 3 ผู้จัดให้ผู้เข้ารอบ ได้ร้องเพลงอัดเสียง เพื่อนำไป เปิดในรายการวิทยุ ให้คนทางบ้านช่วยตัดสิน

ชีวิตของ ก๊อท ตอนหนึ่งเป็นเซลส์แมน ขายเครื่องเสียงตามบ้าน ร้องเพลงเรียกลูกค้า รับเงินเดือนประจำ เขาสนุกกับชีวิต ตะลอนทัวร์ประมาณ 2 ปี โดยไม่กลับบ้าน ส่งแต่เงินกลับ แล้วก็ได้มาทำงาน ที่พัทยาตอนนั้น ถึงแม้เงินเดือนไม่มาก แต่ว่าได้ทิปหลักหมื่น ต่อเดือน ก็เลยมีความเป็นอยู่ดีขึ้น มาส่งเงินกลับจำนวนมาก

ราว ๆ 1 ปี ได้ย้ายมาประจำ ที่ร้านไอส์แลนด์ ว่าว อนุวัฒน์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นโปรดิวเซอร์ของ คีตา เรคคอร์ดส มาพบ แล้วก็ให้เข้ากรุงเทพฯ ทดสอบเสียง แต่ว่าไม่ผ่าน ก็เลยกลับไปทำงานที่เดิม

อีกประมาณ 3-4 เดือนต่อมา เต๋อ เรวัต ผู้ก่อตั้งร่วมและโปรดิวเซอร์ของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มาชวนออกอัลบั้ม โดยแกรมมี่ เช่าอพาร์ตเมนต์ให้อยู่ มีเงินเดือนให้ รุ่นเดียวกัน ที่เรียนร้องเพลงเป็น ใหม่ เจริญปุระ

ก๊อท จักรพันธ์ รางวัล

ปี พ.ศ. 2533 ช่วงการผลิต เซตอัลบั้มชุด “แม่ไม้เพลงไทย”

รวมศิลปินหลายคน ร้องเพลงเก่าที่ดัง ในอดีต แล้วก็ยังหาคนสุดท้ายไม่ได้ สำหรับแนวเพลง ระดับครูของ สุรพล สมบัติเจริญ เต๋อก็เลยเสนอชื่อก๊อท แล้วก็ได้เป็นอัลบั้ม ชุดแรกของเขา ชุดอัลบั้มนี้ขายดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงที่เขาร้อง แล้วก็ในเวลาเดียวกัน ก๊อทเริ่มมีงาน แสดงอย่างต่อเนื่อง แล้วก็เป็นที่นิยม แล้วก็สร้างชื่อเสียงให้เขา เป็นอย่างมาก

สมัยนั้น แนวเพลงไทยสากล (สตริง) มีกระแสนิยมมากกว่า แนวเพลงลูกทุ่ง ก๊อทอยากลองเนื่องจากว่าอายุยังน้อย เพื่อตรงกับการตลาด แต่ว่าเต๋อ ยืนยันมาตั้งแต่แรก ว่าก๊อทเหมาะกับเพลงลูกทุ่ง แต่ว่าก็ไม่คัดค้าน

ก็เลยเกิด อัลบั้มชุดที่ 2 ก๊อต ช็อต ที่เปลี่ยนแนวเป็นสตริง แล้วก็ อัลบั้มชุดที่ 3 ก๊อต เพราะใจไม่เหมือนเดิม เป็นเพลงฟังสบาย แต่ว่าอาจเพราะว่าฟังยาก ไม่ติดหู ก็เลยไม่ค่อยเป็นที่นิยม

ในปี พ.ศ. 2538 กลับมาเป็นแนวเพลงลูกทุ่ง ซึ่ง เต๋อ เรวัติ ดีใจมาก แล้วก็เป็นช่วงเดียวกับ ที่ก่อตั้งแกรมมี่โกลด์ ทีมงานก็เลยผลิต เซตอัลบั้มชุด ก๊อต หัวแก้วหัวแหวน ชุดที่ 1-5 (ออกมาพร้อมกัน ถึง 5 ชุด ในเซต) โดย กริช ทอมมัส เป็นโปรดิวเซอร์ ประจำตัวของเขา นับแต่นั้นเรื่อยมา

ถึงแม้ว่า สร้างหลายอัลบั้มพร้อมกัน แต่ว่าก็ขายได้ถล่มทลาย เป็นประวัติการณ์ ประมาณ 2 ล้านตลับ กระทั่งถือเป็น จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่สร้างชื่อแล้วก็แจ้งเกิด ในวงการลูกทุ่ง ของเขา

พ.ศ. 2539 ผลิตชุดที่ 6-9 ออกมาอีก ยอดขายรวมทั้ง 9 ชุด กว่า 10 ล้านตลับ ความสำเร็จนี้ เต๋อ เรวัติ ได้เตือนเขาว่า ” ขอให้มีสติดี ๆ เพราะว่าความสำเร็จ ที่เข้ามาขนาดนี้ จะทำให้เราเขวได้ ” ซึ่งเขาจดจำยึดถือเรื่อยมา

หลังจากประสบผลสำเร็จ มีรายได้เยอะขึ้น ความเป็นอยู่ที่บ้านก็ดีขึ้น ก๊อทดูแลช่วยเหลือ ค่าใช้จ่ายในบ้านของแม่ แล้วก็น้อง ขณะช่วยเหลือ พี่สาวกับพี่ชายตามโอกาส เนื่องจากว่าทั้งคู่ แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว

ใน พ.ศ. 2550 ภายหลัง อัลบั้มชุดที่ 4 ก๊อต จักรพรรณ์ 4 เจริญ เจริญ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ก๊อท จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ เนื่องจากว่าถูกทักว่า เกิดวันศุกร์ ไม่ถูกโฉลกกับ ร.เรือ หลายตัว ส่วนสกุล เปลี่ยนให้ความหมาย ดียิ่งขึ้นเป็น ครบุรีธีรโชติ แปลว่า เมืองแห่งความรุ่งเรือง ของนักปราชญ์

ก่อนผลิตอัลบั้ม แทนความคิดถึง แล้วก็ก่อนผลิตอัลบั้ม แทนความผูกพัน 20 ปี หัวแก้วหัวแหวน เขาได้พักยาว ใช้เวลากับครอบครัว แล้วก็ใช้โอกาสนี้ ปลูกบ้านใหม่ ที่อยู่กับแม่แล้วก็น้อง โดยดูแลการ ก่อสร้างทั้งหมดเอง

นอกจากอัลบั้ม ที่นำเพลงเก่า มาร้องใหม่แล้ว อัลบั้มของตน ที่ประกอบด้วยเพลงแต่งใหม่ ซึ่งนับเป็นชุดที่ 4 ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน ในปี พ.ศ. 2546 ผลิตอัลบั้ม “ก๊อต จักรพรรณ์ 4 เจริญ เจริญ” ที่กลับมาเป็นแนวลูกทุ่งแล้ว แล้วก็ผลิตแต่ผลงาน แนวเพลงลูกทุ่งเรื่อยมา

ในวันที่ 25 พ.ย. 2565 ก๊อท จักรพันธ์ ได้ประกาศว่า ได้หมดสัญญากับแกรมมี่ โกลด์ เป็นที่เรียบร้อย แล้วก็ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เดินหน้าเป็น นักร้องอิสระเต็มตัว